สัตว์เลี้ยง แม้สุนัขจะอายุมากแล้ว แต่หลายคนก็ยังมองว่ามันแข็งแรงและกระฉับกระเฉง อย่างไรก็ตาม รูปร่างหน้าตาอาจเป็นเรื่องหลอกลวงได้ เนื่องจากร่างกายอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามวัย แม้ว่าภายนอกสุนัขอาจดูไม่เปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่ฉลาดที่จะพึ่งพาการรับรู้นี้มากเกินไป โดยปกติแล้ว เราถือว่าสุนัขเป็นลูกสุนัขจนกระทั่งอายุประมาณ 8-9 ปี เมื่อสุนัขอายุถึงเกณฑ์นี้ สิ่งสำคัญคือต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากสุนัขจะอ่อนแอต่อการเจ็บป่วยต่างๆ ตามกฎทั่วไป สุนัขแก่มักจะแสดงระดับพลังงานที่ลดลง พวกเขาไม่มีชีวิตชีวาและกระฉับกระเฉงเหมือนตอนอายุยังน้อย ในบางกรณีระยะเวลาที่สุนัขใช้ในการนอนต่อวันอาจเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเรื่องปกติสำหรับสุนัขสูงวัย อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณบางอย่างที่ต้องเอาใจใส่และดูแลมากขึ้น เช่น เบื่ออาหาร เมื่อสุนัขอายุมากขึ้น พวกเขาจะไวต่อการเจ็บป่วยมากขึ้น
อาการผิดปกติต่างๆ จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสุนัขสูงวัย ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของในการดูแลสุขภาพ สัตว์เลี้ยง ของตนหากพบอาการผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาหรือป้องกันได้ทันท่วงที การระแวดระวังสามารถสร้างความแตกต่างได้ เมื่อสุนัขอายุมากขึ้น พวกเขาจะไวต่ออาการเจ็บป่วยต่างๆ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นย้ำถึงโรคทั่วไปที่เจ้าของสุนัขทุกคนควรทำความคุ้นเคย
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายลักษณะของโรคแต่ละโรค พร้อมแนะนำผู้อ่านถึงวิธีการป้องกันและรักษาอย่างถูกต้อง เมื่อสุนัขอายุมากขึ้น โรคข้ออักเสบจะกลายเป็นโรคที่พบบ่อย ร่างกายผลิตสารบำรุงกระดูกและข้อลดลง ส่งผลให้เซลล์เนื้อเยื่อข้อเสื่อม ผลที่ได้คือการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติและมักทำให้สุนัขกังวลใจ นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสายพันธุ์ที่ใหญ่กว่า เนื่องจากข้อต่อของพวกมันจะรับน้ำหนักได้มากกว่า
มักจะเห็นได้ชัดเมื่อสุนัขไม่ต้องการขยับหรือเดินเนื่องจากรู้สึกไม่สบาย ในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น สุนัขอาจไม่ยอมใช้ขาและข้อต่ออาจบวมส่งผลให้เดินกะเผลกได้ วิธีการรักษาโรคนี้ประกอบด้วยการผสมผสานระหว่างการรักษาด้วยยาและกายภาพบำบัด ซึ่งปรับให้เหมาะกับความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้น น่าเสียดายที่การหาวิธีป้องกันโรคนี้พิสูจน์ได้ยากแต่มีวิธีลดปัจจัยเสี่ยง วิธีหนึ่งคือการควบคุมน้ำหนักของสุนัขและดูแลไม่ให้สุนัขมีน้ำหนักเกิน
เนื่องจากนี่เป็นปัจจัยที่ทราบกันดีว่าสามารถนำไปสู่การเกิดโรคข้ออักเสบได้ ภาวะไตวายเรื้อรังเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในสุนัขสูงอายุ ภาวะนี้เกิดจากการเสื่อมสภาพของไตทีละน้อยเมื่ออายุมากขึ้น ส่งผลให้การทำงานลดลง ในขั้นต้นไตทำหน้าที่กรองและกำจัดของเสียในรูปของปัสสาวะออกจากร่างกาย เมื่อการทำงานของไตถูกขัดขวาง ของเสียจะสะสมในร่างกายของสุนัข
การระบุอาการเริ่มต้นของโรคไตวายเรื้อรังมักเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากอาการอาจไม่แสดงออกมา จนกว่าการทำงานของไตจะลดลงมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ สุนัขที่เป็นโรคไตอาจแสดงอาการอื่นๆ ที่สังเกตได้ เช่น กระหายน้ำและปัสสาวะมากขึ้น อ่อนเพลีย เฉื่อยชาและไม่อยากอาหาร สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาสัตวแพทย์ทันที เพื่อรับการประเมินอย่างละเอียดหากตรวจพบสัญญาณเหล่านี้
การตรวจพบและการรักษาแต่เนิ่นๆ สามารถลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมาก ดังนั้น เจ้าของควรรีบดำเนินการเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ ความคล้ายคลึงกันระหว่างโรคอัลไซเมอร์ในคนกับภาวะสมองเสื่อมในสุนัขเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง เมื่อสุนัขอายุ 7 ปีขึ้นไปมีโอกาสเสี่ยงที่สมองจะฝ่อ ซึ่งอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางความจำและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป สุนัขที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
โรคตาทำให้สุนัขสูงอายุทรมานคือต้อกระจก ต้อกระจกเกิดขึ้นเนื่องจากความผิดปกติในเลนส์ตา ซึ่งปกติแล้วเลนส์ตาจะใสเพื่อช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงสร้างเลนส์เสื่อมลงตามอายุ ความชัดเจนนี้จึงจางหายไป และการผ่านของแสงจึงถูกขัดขวาง สิ่งนี้ทำให้สายตาของสุนัขแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งบ่งบอกถึงอาการของต้อกระจก โชคดีที่การผ่าตัดแก้ไขสามารถแก้ไขต้อกระจกได้
แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้สัตวแพทย์ประเมินและวินิจฉัยโรคล่วงหน้า หากตรวจพบสัญญาณของการมองไม่เห็นในสุนัข เช่น การสะดุดโดยไม่ทราบสาเหตุหรือการเดินที่แปลกประหลาด รวมถึงดวงตาที่ขุ่นและมีจุดสีขาว สิ่งสำคัญคือต้องพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อตรวจตา เนื่องจากยิ่งสุนัขได้รับการรักษาเร็วเท่าไร โอกาสฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์และการมองเห็นก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
ในบรรดาสุนัขสูงอายุ หนึ่งในโรคที่พบบ่อยที่สุดคือมะเร็งในสุนัข ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการรักษาสัตว์ สุนัขสามารถมีอายุยืนยาวขึ้น อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งจึงเพิ่มขึ้น การเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติคือต้นตอของมะเร็งในสุนัข ซึ่งนำไปสู่การขยายและการก่อตัวของเนื้องอกอย่างควบคุมไม่ได้ สุนัขอาจพบมะเร็งในอวัยวะต่างๆ โดยที่พบบ่อยที่สุดคือมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งผิวหนัง
เนื้องอกซึ่งคล้ายกับมะเร็งแต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ยังเป็นเซลล์ที่เติบโตอย่างผิดปกติซึ่งสามารถแสดงเป็นก้อนหรือตุ่มบนร่างกาย อย่างไรก็ตาม เนื้องอกมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งได้ ข้อสังเกตที่สำคัญที่เจ้าของสามารถทำได้คืออัตราที่ก้อนเนื้อมะเร็งจะโตขึ้น ตุ่มน้ำสามารถกลายเป็นก้อนเนื้อได้ในเวลาไม่กี่วันหรือหลายสัปดาห์ สิ่งสำคัญคือต้องพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์ หากคุณตรวจพบก้อนเนื้อที่มีขนาดโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
การตรวจหาตั้งแต่เนิ่นๆ อาจทำให้มีการผ่าตัดหรือการรักษาทันท่วงทีก่อนที่เนื้องอกจะลุกลามเป็นมะเร็งขั้นรุนแรง เมื่ออายุมากขึ้นหัวใจก็จะค่อยๆ เสื่อมตามไปด้วย ในสุนัขสูงอายุโรคหัวใจเป็นปัญหาที่สำคัญ ความเสื่อมของลิ้นและโรคหัวใจโตเป็นความบกพร่องของหัวใจที่พบบ่อยที่สุดในสุนัขสูงอายุ ภาวะเหล่านี้ทำให้สุนัขมีอาการเหนื่อยล้า หอบและลำบากในการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมาก
นอกจากนี้อาจมีอาการไอและเป็นลมได้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา ภาวะเหล่านี้อาจทำให้สุนัขผอมลงและร่างกายทรุดโทรมมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่อาการหัวใจวายถึงตายได้ เมื่อพูดถึงโรคหัวใจในสุนัข สิ่งสำคัญคือต้องได้รับการดูแลและรักษาจากสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ สัตวแพทย์อาจทำการทดสอบเพิ่มเติมโดยใช้คลื่นไฟฟ้าหัวใจและอัลตราซาวนด์หัวใจเพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริงเพื่อเป็นการป้องกัน
การจัดตารางตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์ปีละ 2-3 ครั้งจะเป็นประโยชน์ หลังจากฟังเสียงหัวใจแล้ว สัตวแพทย์สามารถประเมินเบื้องต้นได้ว่าหัวใจยังทำงานปกติหรือไม่ หากตรวจพบเสียงผิดปกติสามารถเริ่มการรักษาได้ทันท่วงที บ่อยครั้งที่ปัญหาเกี่ยวกับฟันและช่องปากในสุนัขมักถูกมองข้ามโดยเจ้าของสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าสุนัขยังสามารถพัฒนาหินปูนได้
ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น กลิ่นปาก เหงือกร่นและฟันผุ นอกจากนี้สุนัขยังมีความเสี่ยงที่น่าแปลกใจในการเป็นโรคหัวใจ เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางฟันและเหงือกที่เสียหาย เป็นที่น่าสังเกตว่าขั้นตอนการขูดหินปูนสำหรับสุนัขจำเป็นต้องมีการดมยาสลบ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายลง ยิ่งสถานการณ์รุนแรงมากเท่าใด ความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนระหว่างการดมยาสลบก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
บทความที่น่าสนใจ หุ่นยนต์ การศึกษาเหตุผลว่าทำไมญี่ปุ่นถึงสนใจพัฒนาหุ่นยนต์ไบโอนิค